ในปัจจุบัน ผักและผลไม้ถือเป็นอาหารสำคัญที่ผู้คนบริโภคเพื่อรับสารอาหารและวิตามินที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ในกระบวนการเพาะปลูก ผักและผลไม้อาจได้รับสารเคมี เช่น สารเคมีกำจัดศัตรูพืช ปุ๋ยเคมี หรือยาฆ่าเชื้อรา ทำให้มีสารพิษตกค้างที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ ดังนั้น การล้างผักและผลไม้เพื่อลดสารพิษตกค้างก่อนการบริโภคจึงเป็นขั้นตอนที่สำคัญ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับสุขภาพ
ทำไมเราต้องล้างผักและผลไม้ให้สะอาด
ยาฆ่าแมลงและสารเคมีที่ใช้ในการเกษตรมักถูกใช้เพื่อป้องกันแมลงและเชื้อโรคต่างๆ แต่สารเหล่านี้อาจยังคงตกค้างบนผิวผักและผลไม้ การรับประทานผักและผลไม้ที่มีสารเคมีตกค้างอาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพทั้งระยะสั้นและระยะยาว เช่น การแพ้สารเคมี หรือความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังในอนาคต
การเลือกผักและผลไม้
1.มีสีสันตามธรรมชาติไม่มีคราบขาวของสารเคมีหรือกลิ่นที่ผิดปกติ
2.มีรอยกัดของหนอนหรือแมลงอยู่บ้าง
3.เลือกผักและผลไม้ตามฤดูกาล
การเตรียมผักและผลไม้ก่อนล้าง
- นำส่วนที่รับประทานไม่ได้ออก เช่น ราก
- แกะหรือคลี่ใบออก
- ถ้ามีเศษดินติดรากให้เคาะออก
วิธีล้างผักและผลไม้
ล้างด้วยน้ำธรรมดา
- แช่ในน้ำนาน 5-20 นาที
- เขย่า/ลูบเบาๆ
- ล้างผ่านน้ำสะอาดไหลซ้ำอีกครั้งหนึ่งไม่น้อยกว่า 30 วินาที
*เป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับการล้างผักและผลไม้จำนวนน้อย
ล้างด้วยน้ำส้มสายซู
- ผสมน้ำส้มสายซูประมาณ 200 มล.ต่อน้ำ 2 ลิตร
- แช่ให้ท่วมผักและผลไม้ทิ้งไว้ 15 นาที แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด
ล้างด้วยโซเดียมไบคาร์บอเนต
- ผสมโซเดียมไบคาร์บอเนต 1 ช้อนชา หรือ 5 กรัมต่อน้ำ 4 ลิตร
- แช่ให้ท่วมผักและผลไม้ทิ้งไว้ 15 นาที แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด
กรณีใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดสำหรับผักและผลไม้
- เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีเลขสารบนอาหาร
- วิธีเตรียมหรือวิธีล้างตามข้อแนะนำที่ระบุไว้บนฉลาก
ที่สำคัญ!! อย. ไม่แนะนำให้ล้างผักและผลไม้ด้วยสารละลายน้ำผสมด่านทับทินเนื่องจากตามกฎหมายยังไม่อนุญาตให้ใช้ในอาหาร
การล้างผักและผลไม้ก่อนบริโภคเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยลดสารพิษตกค้างและป้องกันความเสี่ยงต่อสุขภาพ ควรเลือกวิธีการล้างที่เหมาะสมและใช้เวลาอย่างเพียงพอเพื่อให้มั่นใจว่าผักและผลไม้ปลอดภัยต่อการบริโภค การล้างด้วยน้ำสะอาด การแช่ในน้ำเกลือ น้ำส้มสายชู หรือเบกกิ้งโซดา เป็นวิธีที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ง่ายในชีวิตประจำวัน เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณและครอบครัว
บทความต้นฉบับ