ผลกระทบของการบริโภคคาเฟอีนมากเกินไป

การดื่มคาเฟอีนมากเกินไปสามารถนำไปสู่ผลข้างเคียงที่หลากหลาย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อทั้งสุขภาพกายและจิตใจ คาเฟอีนเป็นสารกระตุ้นที่พบในเครื่องดื่มหลายชนิด เช่น กาแฟ ชา และเครื่องดื่มชูกำลัง แม้ว่าจะมีประโยชน์ในการเพิ่มความตื่นตัวและสมาธิ แต่การบริโภคในปริมาณมากเกินไปอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ แม้ว่าคาเฟอีนจะมีประโยชน์ในหลายด้าน แต่การบริโภคมากเกินไปอาจนำไปสู่ผลข้างเคียงที่รุนแรงต่อสุขภาพ การระมัดระวังในการบริโภคคาเฟอีนในปริมาณที่เหมาะสม และการตระหนักถึงอาการที่เกิดจากการบริโภคคาเฟอีนมากเกินไปเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาสุขภาพที่ดีและป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต การบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม ตัวอย่างเช่น เมนูกาแฟในร้าน Starbucks เอสเปรสโซ 1 ช็อต มีปริมาณคาเฟอีน 75 มิลลิกรัม หรือ ลาเต้ ปริมาณคาเฟอีน 150 มิลลิกรัม ในแต่ละเมนูจะมีคาเฟอีนที่ไม่เท่ากัน ดังนั้นควรเลือกดื่มในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อสุขภาพของเรา ผลกระทบของการบริโภคคาเฟอีนมากเกินไป ภาวะคาเฟอีนเป็นพิษ (Caffeine Intoxication) การดื่มคาเฟอีนในปริมาณมากเกินไปในระยะเวลาสั้นๆ อาจนำไปสู่ภาวะคาเฟอีนเป็นพิษ ซึ่งเป็นภาวะที่ระบบประสาทส่วนกลางถูกกระตุ้นมากเกินไป อาการที่พบได้รวมถึง หน้าแดง วิงเวียนศีรษะ หงุดหงิด ใจสั่น หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ กล้ามเนื้อกระตุก และนอนไม่หลับ นอกจากนี้ยังอาจทำให้เกิดความดันโลหิตสูง กระสับกระส่าย วิตกกังวล ความคิดและการพูดสับสน ปัสสาวะมากผิดปกติ ปวดท้อง และร่างกายขาดน้ำ ภาวะเสพติดคาเฟอีน (Caffeinism) การบริโภคคาเฟอีนในปริมาณมากๆ … Read more

6 แนวทางในการลดน้ำหนักอย่างยั่งยืน

การลดน้ำหนักไม่ใช่เรื่องที่สามารถทำได้ภายในเวลาอันสั้น หากแต่เป็นกระบวนการที่ต้องใช้ความอดทน ความพยายาม และวินัยในการดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่อง การลดน้ำหนักอย่างยั่งยืนและปลอดภัยต้องคำนึงถึงการควบคุมอาหารและการออกกำลังกายอย่างสมดุล 6 แนวทางในการลดน้ำหนักอย่างยั่งยืน 1. การตั้งเป้าหมายที่เป็นไปได้และยั่งยืน การลดน้ำหนักที่ยั่งยืนควรเริ่มต้นด้วยการตั้งเป้าหมายที่เป็นไปได้ เช่น การลดน้ำหนักประมาณ 0.5-1 กิโลกรัมต่อสัปดาห์ ซึ่งเป็นอัตราที่ปลอดภัยและเหมาะสม เป้าหมายที่สมเหตุสมผลจะช่วยลดความกดดันและทำให้คุณมีความมุ่งมั่นในการปฏิบัติตามแผนที่วางไว้ 2. การควบคุมอาหารด้วยการเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ การลดน้ำหนักควรเน้นที่การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และสมดุล เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เพียงพอ เช่น 3. การจัดการปริมาณแคลอรี่ การควบคุมปริมาณแคลอรี่ที่รับประทานเป็นสิ่งสำคัญในการลดน้ำหนัก คุณควรทำการคำนวณแคลอรี่ที่เหมาะสมสำหรับการลดน้ำหนักของคุณและจัดการปริมาณอาหารให้สอดคล้องกับเป้าหมาย แต่ควรหลีกเลี่ยงการลดแคลอรี่ลงมากเกินไป เพราะอาจทำให้ร่างกายขาดสารอาหารและพลังงาน 4. การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายเป็นส่วนสำคัญในการลดน้ำหนัก ควรเลือกการออกกำลังกายที่คุณชื่นชอบและทำได้อย่างสม่ำเสมอ 5. การติดตามและปรับเปลี่ยนแผน การติดตามความก้าวหน้าเป็นสิ่งที่ช่วยให้คุณเห็นผลลัพธ์และปรับเปลี่ยนแผนตามความเหมาะสม หากน้ำหนักลดลงช้ากว่าที่คาดไว้ ควรประเมินและปรับเปลี่ยนแผนอาหารและการออกกำลังกายให้เหมาะสม 6. การดูแลสุขภาพจิตใจและการพักผ่อน สุขภาพจิตเป็นส่วนสำคัญในการลดน้ำหนัก การจัดการความเครียดและการนอนหลับเพียงพอจะช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดโอกาสการเกิดภาวะอ้วนหรือโรคที่เกี่ยวข้อง การลดน้ำหนักที่ยั่งยืนและปลอดภัยไม่ใช่เพียงแค่การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว แต่เป็นการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตในระยะยาว โดยการควบคุมอาหารและการออกกำลังกายอย่างสมดุลควบคู่กันไป นอกจากนี้ ควรให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพจิตและการพักผ่อนอย่างเพียงพอเพื่อให้สามารถลดน้ำหนักได้อย่างปลอดภัยและยั่งยืน อ้างอิง

Fit & Firm Challenge ครั้งที่ 2 : ชวนขยับนับก้าว – บริษัท นิกโกะ ไลท์  (ประเทศไทย) / 1 กันยายน – 15 ตุลาคม 2567

บริษัท นิกโกะ ไลท์  (ประเทศไทย) จำกัด จัดการแข่งขันสร้างเสริมสุขภาพในกิจกรรม  “Fit & Firm Challenge ครั้งที่ 2 : ชวนขยับนับก้าว”  เพื่อส่งเสริมการ ออกกำลังกาย ที่จะส่งผลต่อสุขภาพที่ดีของพนักงาน กิจกรรม  Fit & Firm Challenge ครั้งที่ 2 : ชวนขยับนับก้าว เปิดรับสมัคร : ตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม ถึง 31 สิงหาคม 2567 ระยะเวลาการแข่งขัน : วันที่ 1 กันยายน – 15 ตุลาคม 2567 เกณฑ์รางวัล : รายละเอียดรางวัล : หมายเหตุ: มีของสมนาคุณให้กับผู้ที่ลงทะเบียนสมัครทุกคน การใช้งานแอปพลิเคชันไทยสุข

ออกกำลังสบายชีวี วิถีตนทำงาน (Sanpatong Challenge) / 15 สิงหาคม – 15 กันยายน 67

เทศบาลตำบลสันป้าตอง โดยกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมร่วมกับโรงพยาบาลสันป่าตอง ดำเนินการจัดกิจกรรม “Sanpatong Challenge” โดยใช้ แอปพลิเคชั่นไทยสุข 📍 ระยะเวลาการแข่งขัน : วันที่ 15 สิงหาคม – 15 กันยายน 2567 📍 เกณฑ์การแข่งขัน : การแข่งขันปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพิ่มการออกกำลังกาย 📍การใช้งานแอปพลิเคชันไทยสุข 🏅🎉อัปเดตการแข่งขัน กำหนดการประจำสัปดาห์ ประกาศผลรางวัล และสอบถามเพิ่มเติมได้ทาง Facebook: ThaiSook ไทยสุข ฝากกด

5 ข้อแนะนำในการดื่มเครื่องดื่มที่ผสมคาเฟอีน

คาเฟอีนเป็นสารกระตุ้นที่พบในเครื่องดื่มหลากหลายชนิด เช่น กาแฟ ชา เครื่องดื่มชูกำลัง และน้ำอัดลม คาเฟอีนช่วยเพิ่มความตื่นตัวและสมาธิ แต่การบริโภคคาเฟอีนเกินขนาดหรือไม่เหมาะสมอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ 5 ข้อแนะนำในการดื่มเครื่องดื่มที่ผสมคาเฟอีน 1. การบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม 2. หลีกเลี่ยงการบริโภคคาเฟอีนก่อนนอน คาเฟอีนสามารถรบกวนการนอนหลับได้ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่ผสมคาเฟอีนในช่วงเย็นหรือก่อนนอนอย่างน้อย 6 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการนอนไม่หลับและส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว 3. ตรวจสอบส่วนประกอบของเครื่องดื่ม อ่านฉลากและตรวจสอบปริมาณคาเฟอีนในเครื่องดื่มเสมอ เครื่องดื่มบางชนิดอาจมีคาเฟอีนมากกว่าที่คาดคิด เช่น ชาเขียว ชาดำ และเครื่องดื่มชูกำลัง 4. หลีกเลี่ยงการบริโภคคาเฟอีนร่วมกับแอลกอฮอล์ การบริโภคคาเฟอีนร่วมกับแอลกอฮอล์สามารถทำให้คุณรู้สึกตื่นตัวและไม่ได้รับรู้ถึงผลกระทบของแอลกอฮอล์ ซึ่งอาจนำไปสู่การดื่มแอลกอฮอล์เกินขนาดและเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ 5. ระมัดระวังสำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพหรือผู้หญิงตั้งครร อ้างอิง

ภาระกิจพิชิตอ้วน “We must change” / 5 สิงหาคม – 31 ตุลาคม 2567

สมาคมเครือข่ายโรคไม่ติดต่อไทย ร่วมกับไทยสุข สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จัดการแข่งขันสร้างเสริมสุขภาพใน โครงการ “สร้างความตระหนักของสมาคมวิชาชีพสุขภาพและเครือข่ายภาคประชาสังคมในการสื่อสารความเสี่ยงการป้องกันและลดโรค NCDs ในประชากร 📍 ระยะเวลาการแข่งขัน : วันที่ 5 สิงหาคม – 31 ตุลาคม 2567 📍 เกณฑ์การแข่งขัน : การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่สามารถลดปัจจัยเสี่ยงและควบคุมการก่อเกิดโรคอ้วน ซึ่งนำไปสู่โรค NCDs ในอนาคตได้ โดยกลุ่มเป้าหมายเป็นเด็กอายุระหว่าง 6 – 12 ปี ที่มีค่า BMI (Body Mass Index) เกินมาตราฐาน อยู่ในเกณฑ์ (ท้วม) 📍การใช้งานแอปพลิเคชันไทยสุข 🏅🎉อัปเดตการแข่งขัน กำหนดการประจำสัปดาห์ ประกาศผลรางวัล และสอบถามเพิ่มเติมได้ทาง Facebook: ThaiSook ไทยสุข ฝากกดติดตามกันด้วยนะคะ และขอให้ทุกท่านสนุก สุขภาพดีกับกิจกรรมของเราค่ะ 🎉🏅

ข้อระวังในการบริโภคคาเฟอีน

สารกาเฟอีนหรือคาเฟอีน (Caffeine) เป็นสารที่ร่างกายจะดูดซึมจากทางเดินอาหารเข้าสู่กระแสเลือดที่มีฤทธิ์ต่อระบบหัวใจและการไหลเวียนของโลหิต คาเฟอีนพบได้ในเครื่องดื่มหลากหลายชนิด เช่น กาแฟ ชา เครื่องดื่มชูกำลัง และน้ำอัดลม คาเฟอีนช่วยเพิ่มความตื่นตัวและสมาธิ แต่การบริโภคคาเฟอีนเกินขนาดหรือไม่เหมาะสมอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ ดังนั้น ควรทราบข้อควรระวังต่อไปนี้ในการใช้เครื่องดื่มที่ผสมคาเฟอีน อาจก่อให้เกิดอันตรายหากได้รับในปริมาณมากและติดต่อกันเป็นประจำ ข้อระวังในการบริโภคคาเฟอีน การบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม สำหรับผู้ใหญ่ การบริโภคคาเฟอีนไม่ควรเกิน 400 มิลลิกรัมต่อวัน หรือประมาณกาแฟ 4 แก้ว การบริโภคเกินขนาดอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น หัวใจเต้นเร็ว หงุดหงิด นอนไม่หลับ และคลื่นไส้ เด็กและวัยรุ่นไม่ควรบริโภคคาเฟอีนเกิน 100 มิลลิกรัมต่อวัน หรือประมาณ 1 แก้วกาแฟ การบริโภคคาเฟอีนเกินขนาดในวัยนี้อาจมีผลกระทบต่อการเจริญเติบโต การพัฒนา และการนอนหลับ ตัวอย่างเช่น เมนูกาแฟในร้าน Starbucks เอสเปรสโซ 1 ช็อต มีปริมาณคาเฟอีน 75 มิลลิกรัม หรือ ลาเต้ ปริมาณคาเฟอีน 150 มิลลิกรัม ในแต่ละเมนูจะมีคาเฟอีนที่ไม่เท่ากัน ดังนั้นควรเลือกดื่มในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อสุขภาพของเรา ความเครียดและความวิตกกังวล … Read more

IPSR PA Challenge / 1 สิงหาคม – 31 ตุลาคม 67

ศูนย์พัฒนาองค์ความรู้ด้านกิจกรรมทางกายประเทศไทย (ทีแพค) ร่วมกับไทยสุข สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จัดการแข่งขันสร้างเสริมสุขภาพใน โครงการ “IPSR PA Challenge สร้างสุขภาพดีกับ 53 ปี IPSR”  📍 ระยะเวลาการแข่งขัน: วันที่ 1 สิงหาคม –  31 ตุลาคม 2567 (3 เดือน) 📍 รายละเอียด:  กิจกรรมนี้เป็นการสะสมคะแนนกิจกรรมทางกาย และเปลี่ยนคะแนนเป็นความดี ไปพร้อมกับสร้างประโยชน์ให้กับสังคม เพื่อมอบเป็นของขวัญชิ้นพิเศษ เนื่องในโอกาสครบรอบ 53 ปีของสถาบันฯ นอกจากทุกท่านจะได้มอบของขวัญให้แก่สถาบันฯ แล้ว ยังเป็นการสร้างเสริมสุขภาพที่ดีให้แก่ตัวท่านอีกด้วย กิจกรรมดังกล่าวประกอบด้วย กิจกรรมเสริมสร้างสุขภาพแบบใหม่ ๆ ให้ทุกท่านได้ร่วมสนุก มีการวัดผลสุขภาพเบื้องต้น และมีข้อมูลความรู้ด้านสุขภาพที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล อีกทั้งยังมีของรางวัล และของที่ระลึกให้ทุกท่านได้ร่วมลุ้นตลอดการเข้าร่วมกิจกรรม และที่สำคัญกิจกรรมนี้เข้าร่วม ฟรี !! ไม่มีค่าใช้จ่าย ยินดีต้อนรับทุกท่าน !! 📍การใช้งานแอปพลิเคชันไทยสุข ผลการแข่งขัน (อัพเดทรายวัน) 🏅🎉อัปเดตการแข่งขัน กำหนดการประจำสัปดาห์ ประกาศผลรางวัล และสอบถามเพิ่มเติมได้ทาง Facebook: ThaiSook ไทยสุข ฝากกดติดตามกันด้วยนะคะ และขอให้ทุกท่านสนุก สุขภาพดีกับกิจกรรมของเราค่ะ 🎉🏅

กิจกรรมนับก้าว V-STRONG บ.วิริยะประกันภัย / 1 เมษายน – 30 สิงหาคม 67

บริษัทวิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับไทยสุข สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จัดการแข่งขันสร้างเสริมสุขภาพใน โครงการ “กิจกรรมนับก้าว V-STRONG” เพื่อส่งเสริมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้มีสุขภาพที่ดีขึ้นของคนในองค์กร 📍 ระยะเวลาการแข่งขัน : ระหว่างวันที่ 1 เมษายน – 30 สิงหาคม 2567 📍 เกณฑ์การแข่งขัน : สะสมก้าวเดิน 6,000 ก้าว 📍การใช้งานแอปพลิเคชันไทยสุข

“ขยับแค่ไหนถึงจะพอ” คำแนะนำสำหรับการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดี

การเคลื่อนไหวร่างกายหรือการออกกำลังกายเป็นส่วนสำคัญในการรักษาสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี การทำกิจกรรมทางกายไม่เพียงช่วยให้ร่างกายแข็งแรง แต่ยังมีผลดีต่อสุขภาพจิตและการควบคุมน้ำหนัก อย่างไรก็ตาม คำถามที่สำคัญคือ “ขยับแค่ไหน ถึงจะพอ?” การเคลื่อนไหวร่างกายไม่ได้จำกัดเฉพาะการออกกำลังกาย แต่รวมถึงการเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวันและการทำงานด้วย การทำกิจกรรมเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอช่วยส่งเสริมสุขภาพและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ เส้นเลือดในสมองตีบ โรคกระดูกพรุนในผู้สูงอายุ โรคอ้วน โรคมะเร็งเต้านม และมะเร็งลำไส้ใหญ่ การมีพฤติกรรมที่เคลื่อนไหวร่างกายอย่างต่อเนื่องจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงของร่างกายและส่งเสริมสุขภาพโดยรวม แนวทางการออกกำลังกายที่เหมาะสม 1. ความเข้มข้นของการออกกำลังกาย สำหรับการออกกำลังกายระดับปานกลาง (Moderate-intensity activity) เช่น เดินเร็ว ขี่จักรยาน หรือทำสวน ควรทำอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ สำหรับการออกกำลังกายระดับสูง (Vigorous-intensity activity) เช่น วิ่ง แอโรบิก หรือกีฬาเข้มข้น ควรทำอย่างน้อย 75 นาทีต่อสัปดาห์ นอกจากนี้ ควรรวมการออกกำลังกายที่สร้างกล้ามเนื้ออย่างน้อย 2 วันต่อสัปดาห์ 2. การผสมผสานระหว่างประเภทของการออกกำลังกาย ควรผสมผสานการออกกำลังกายแบบแอโรบิก (Aerobic exercise) และการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ (Strength training) เพื่อให้ร่างกายได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ 3. … Read more